โกดังปาปาย่า เฟอร์นิเจอร์วินเทจ
โกดังขนาดใหญ่ที่จัดแสดงสินค้าอย่างเฟอร์นิเจอร์วินเทจสุดหรู ของแต่งบ้าน และของสะสมต่างๆ
Papaya คือชื่อของร้านนี้ หากเดินผ่านมาแบบไม่ได้ตั้งใจ เราคงจินตนาการไม่ออกว่าทางเข้าขนาดน่ารักที่ชวนให้เราเดินขึ้นบันไดไปนั้น จะนำไปสู่โกดังของเก่าที่มีพื้นที่รวมแล้วมากกว่า 4,000 ตารางเมตร
เราเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ซึ่งลัดเลาะพาเราไปสำรวจสินค้าหมวดหมู่ต่างๆ ได้สักพัก ก็พบกับเอเทรียมหรือพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ตรงกลางโกดัง ที่เผยให้เห็นว่าที่นี่มีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งในชั้นที่สองถูกแบ่งย่อยออกเป็นสเปซเล็กๆ มีห้องหับแอบซ่อนอยู่ชวนให้ค้นพบ ส่วนชั้นสามจะคล้ายๆ กัน แต่มีพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า และบางส่วนถูกแบ่งไปเป็นห้องสตูดิโอให้เช่าสำหรับถ่ายภาพ
พี่สมหญิงเล่าให้เราฟังว่าโกดัง Papaya แห่งนี้เริ่มขึ้นมาจากความที่ พี่ต๋อง–สุพจน์ ศิริพรเลิศกุล สามีของเธอหลงใหลในการสะสมของเก่ามาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนสถาปัตย์ และเมื่อมีของสะสมเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จำเป็นต้องหันมาค้าขาย เพราะไม่งั้นจะไม่มีที่เก็บของ
“ไม่ได้จะเริ่มทำเป็นธุรกิจเลย คนทำธุรกิจเขาไม่สต็อกของเยอะขนาดนี้หรอก คนอื่นไม่กล้าทำ แต่สามีพี่ถ้าชอบก็จะซื้อ เงินในกระเป๋าไม่มีก็ซื้อ แล้วค่อยควานหาว่าจะเอาเงินที่ไหนจ่าย แค่นี้เลย”
ตอนเริ่มต้น Papaya เปิดร้านอยู่ที่ราชดำริ แล้วค่อยย้ายมาที่ลาดพร้าวเพราะต้องการขยับขยาย และปักหลักอยู่มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว โดยตัวโกดังแห่งนี้เคยเป็นโรงฉายภาพยนตร์เก่าที่พี่ต๋องจัดการรีโนเวตเสียใหม่ เหล่าห้องหับหรือตรอกซอกซอยที่เดินสนุกจนเราติดใจนั้นก็เป็นการออกแบบที่คิดมาแล้ว
ส่วนการจัดสินค้าว่าจะวางอะไรตรงไหนนั้น เป็นผลงานของพี่สมหญิง
“เขาซื้อมาแบบไม่จัดเลย ถมเข้าไป ซึ่งสมัยก่อนพวกสถาปนิก ดีไซเนอร์จะชอบมาคุ้ยหากัน แต่ตอนนี้ตลาดกว้างขึ้น มีคนทั่วไปสนใจหันมาเล่นของเก่ากันมากขึ้น เราพยายามจัดดิสเพลย์ให้คนเห็น วางให้เป็นหมวดหมู่ แมตช์เฟอร์นิเจอร์ให้พอดีกับสเปซ ไม่แน่นจนเกินไป จัดเซตโต๊ะเก้าอี้ที่ดูเข้ากัน แก้ว ขวด เราก็มาจัดเอง บางทีมันไม่ใช่เซตของมัน แต่เขามาเห็นก็เอาทั้งหมดเพราะชอบ” เธอเล่าให้ฟัง และการจัดเองกับมือทุกชิ้นนี่เองที่ทำให้พี่สมหญิงจำสินค้าได้ทุกชิ้นในร้าน
“ของจากเมืองไทยก็มี ส่วนใหญ่เป็นของบ้านเก่าๆ เพราะไม่มีใครนั่งค้น นั่งรื้อหรอกว่าในบ้านเก่ามีอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะจ้างเขารื้อ คนที่รื้อเขารู้ว่าพี่ต๋องชอบเล่นก็เอามาเสนอ อย่างประตูทางเข้าฝั่งโน้นก็ได้มาจากเยาวราช เป็นประตูที่ใหญ่สูงมาก และเป็นตู้โชว์ด้วย เวลาเขาย้ายบ้านไปแล้วไปปลูกบ้านโมเดิร์นเขาก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม เก็บไว้อีกกี่ปีจะได้ใช้ก็ไม่รู้ ทำบ้านโมเดิร์น จะเอางานไม้หรือตั่งจีนเก่าๆ ก็ไม่เข้ากัน คนไม่มีที่เก็บก็ต้องขาย” พี่สมหญิงอธิบาย ก่อนจะเสริมขึ้นมา
“ข้อดีอย่างนึงคือ มันไม่ dead stock ของบางชิ้นอยู่กับเรามา 30-40 ปี อยู่ดีๆ คนก็มากรี๊ดว่าตามหาของชิ้นนี้นานมาก แล้วก็ซื้อกลับไป ของทุกอย่างที่นี่ไม่ต้องทิ้ง คนนี้อาจจะไม่ชอบ มองว่าเป็นขยะ แต่กับอีกคนหนึ่ง มันเป็นของที่เขามองหา”
พี่สมหญิงตอบไม่ได้เมื่อเราถามว่าสินค้าที่ขายดีที่สุดของที่นี่คืออะไร เพราะสินค้ามีความหลากหลายสูงและก็คาดเดาความต้องการลูกค้าไม่ได้ เธอเล่าว่าไม่นานนี้เพิ่งมีคนมาซื้อก๊อกอ่างล้างมือและโถชักโครกไปกว่า 20-30 ชุด เพื่อนำไปทำโรงแรม
สิบปีเป็นเวลาที่ยาวนาน หลายสิ่งในร้าน Papaya จึงเปลี่ยนไปจากในช่วงแรก หนึ่งในนั้นคือช่องทางของรายได้หลัก พี่สมหญิงเล่าว่าเดิมทีรายได้หลักของร้านมาจากการเปิดสตูดิโอถ่ายภาพให้เช่า เพราะ Papaya Studio มีจุดเด่นที่มีสารพัดพร็อพภายในร้านให้เลือกเช่าเลือกใช้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเริ่มพัฒนาและการถ่าย green screen สำหรับตัดต่อเปลี่ยนพื้นหลังสามารถทำได้ง่ายขึ้น คนก็ใช้บริการสตูดิโอถ่ายภาพน้อยลง แต่การเปลี่ยนแปลงก็นำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ เช่นกัน เพราะเมื่อตั๋วเครื่องบินถูกลงและโซเชียลมีเดียเริ่มบูม ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวโพสต์ภาพที่ถ่ายในร้านและเขียนรีวิวแนะนำ จนกลายเป็นว่าในปัจจุบันลูกค้า 80-90 เปอร์เซ็นต์ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติที่ใช้บริการส่งข้ามประเทศด้วยตู้คอนเทนเนอร์ และในบางวันก็มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาถึง 200 คนเลยทีเดียว ไม่นานมานี้จึงมีการเปิดโซนคาเฟ่เพิ่มสำหรับขายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาเยือน
ที่อยู่ : ลาดพร้าว 55/2
เปิด : 9:00 – 19:00 น. เปิดบริการทุกวัน
Phlabphla
Wang Thonglang
Bangkok 10310