ศาลเจ้ากะทู้– Lai Thu Tao Bo Keng
นอกจากจะมีรูปปั้นเทพเจ้าจีนต่าง ๆ แล้ว ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ทรงชุดสีขาวพระพักตร์เอิบอิ่ม มีแต้มจุดแดงที่พระนลาฎ พระหัตถ์ขวาทรงขวดน้ำมนตร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าประทานพร ทรงยืนบนฐานมังกร ซึ่งนับเป็นประติมากรรมเทพเจ้าจีนที่สวยงามมากรูปหนึ่ง ซึ่งผู้คนให้ความศรัทธาสูงยิ่ง
“อ๊ามกะทู้” ศาลเจ้ากะทู้ หรือศาลเจ้าในทู ตามแต่จะเรียกขาน จุดกำเนิดก่อเกิดประเพณีถือศีลกินผักของภูเก็ต เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์
สำหรับศาลเจ้ากะทู้ นับว่าเป็นจุดกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ถึงแม้ว่าจะมีหลากหลายตำนาน แต่ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตทเริ่มต้นครั้งแรกที่อำเภอกะทู้ ในปี พ.ศ.2368 หรือประมาณ 193 ปีที่ผ่านมา ขณะนั้นพระยาถลาง ได้ย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านเก็ตโฮ่ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ดีบุก แต่ตอนนั้นยังเป็นป่าทึบ ชุดชุมด้วยไข้มาลาเรีย
ต่อมา มีคณะงิ้วปั่วฮี่ จากเมืองจีนมาเปิดการแสดง ชาวคณะได้เกิดล้มป่วยลง คณะงิ้วจึงได้ประกอบพิธีกินผักขึ้น เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า ‘กิ๋วฮ๋องไต่เต่’ และ ‘ยกอ๋องซ่งเต่’ การณ์ปรากฏว่า โรคภัยไข้เจ็บได้หายไปหมดสิ้น จากนั้นมา ชาวกะทู้เกิดความศรัทธาสูงสุด จึงประกอบพิธีกินผักขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) รวม 9 วัน 9 คืน มาเป็นประจำทุกปี จนถึงทุกวันนี้
ศาลเจ้ากะทู้ในปัจจุบันนั้นไดเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานนักตามแบบของศาลเจ้าที่อยู่ในประเทศจีนซึ่งศาลเจ้าที่ได้สร้างขึ้นก่อนหน้านี้นั้นจะมีขนาดเล้กกว่าและอาจไม่สวยงามตระการตาเท่าปัจจุบัน ซึ่งภายในศาลเจ้ากะทู้นั้นจะมีรูปปั้นเทพเจ้าจีนต่าง รวมทั้งรูปปั้นแกะสลักด้วยไม้แทนองค์พระศักดิ์สิทธิ์ที่บางองค์มีอายุถึงร้อยปีด้วยกัน อีกทั้งยังมีโต๊ะบูชาเทวดา มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ทรงชุดสีขาวพระพักตร์เอิบอิ่ม มีแต้มจุดแดงที่พระนลาฎ พระหัตถ์ขวาทรงขวดน้ำมนตร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าประทานพร ทรงยืนบนฐานมังกร ซึ่งนับเป็นประติมากรรมเทพเจ้าจีนที่สวยงามมากรูปหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งผู้คนให้ความศรัทธาสูงยิ่ง
โดยศาลเจ้าหล่ายถู่ต่าวโบเก้ง (กะทู้) อ.กะทู้ ซึ่งถือว่าเป็นศาลเจ้าต้นกำเนิดของประเพณี "เจี๊ยะฉ่าย" หรือประเพณีถือศีลกินผัก และเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะภูเก็ตประกอบพิธีแห่พระรอบตัวเมือง โดยมีเหล่าม้าทรงชายหญิงส่วนใหญ่ใช้อาวุธหรือของมีคมที่อยู่ในตำนาน หรือประเพณีถือศีลกินผักที่โบราณยึดถืออย่างเคร่งครัด เช่น 5 มณฑล เหล็กเส้น ก้านไผ่ เป็นต้น แต่ยังคงมีม้าทรงบางรายที่ยังใช้วัตถุหรือของมีคมนอกตำนาน เช่น ปืนบีบี ดาบซามูไร โดยไม่สนใจคำเตือนของ สสจ.ภูเก็ตหรือชมรมอ๊ามภูเก็ต (ศาลเจ้า) ที่ขอความร่วมมือในการใช้อาวุธหรือวัตถุมีคมทิ่มแทงกระพุ้งแก้มให้อยู่ในตำนานประเพณี หรือไม่เกินความเป็นจริงที่ร่างกายจะรับได้ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินับพันคนที่รอชม และร่วมตั้งโต๊ะน้ำชา-ผลไม้ จุดประทัดเพื่อเป็นการรับพระตามเส้นทางที่ขบวนผ่าน
มีท่านผู้รู้ได้อธิบายไว้เกี่ยวกับ การประกอบพิธีกรรม ของศาลเจ้าว่า ตำรา และคัมภีร์ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกินผัก ห้ามนำออกมาเปิดเผย ผู้ใดนำมาเปิดเผย จะมีอันเป็นไป ตำรา และคัมภีร์ดังกล่าวนี้ นำออกมาเปิดเผย ได้เฉพาะ ในระหว่างพิธีกินผักเท่านั้น เมื่อเสร็จ จากพิธีกินผักแล้ว ให้นำไปเก็บไว้ที่เดิม ในศาลเจ้าทันที
Kathu District
Phuket 83120