แม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ

แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำสาขาหลัก 2 สายจากภาคเหนือ คือ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน โดยมาบรรจบกันบริเวณหน้าเขื่อนในตัวเมือง ที่ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจะเห็นความแตกต่างของสายน้ำทั้งสองได้อย่างชัดเจน กล่าวคือ แม่น้ำน่านจะมีสีค่อนข้างแดง และแม่น้ำปิงจะเป็นสีค่อนข้างไปทางเขียว เมื่อมาบรรจบกันแล้วจึงค่อย ๆ รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าจังหวัดนครสวรรค์เป็นเมืองต้นกำเนิดแม่น้ำ จากนั้นไหลลงไปทางทิศใต้ ผ่านจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ก่อนออกสู่อ่าวไทยที่ปากน้ำในอำเภอเมืองสมุทรปราการ และอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

การขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณกรุงเทพมหานคร ทั้ง 3 ครั้งในสมัยอยุธยา ซึ่งประกอบด้วย คลองลัดบางกอก พ.ศ. 2065 รัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช คลองลัดบางกรวย พ.ศ. 2081 รัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ คลองลัดนนทบุรี พ.ศ. 2179 รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และในสมัยรัตนโกสินทร์ คลองลัดโพธิ์ บริเวณตำบลทรงคะนองและตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อช่วยในการระบายน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้า

เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา

มีเรือสาธารณะทั้งหมด 5 สาย ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งใช้เส้นทางเดียวกันระยะทาง 21 กม. ได้แก่ 'สายท้องถิ่น' 'สีส้ม' 'เหลือง' 'น้ำเงิน' และ 'เขียว-เหลือง' ให้บริการระหว่างเวลา 6.00 น. ถึง 19.30 น. ทุกวัน โดยแต่ละสายสามารถระบุได้ด้วยธงสีที่ห้อยอยู่ที่ด้านหลัง

ในชั่วโมงเร่งด่วน'สายท้องถิ่น' เท่านั้นจะหยุดที่ท่าเรือทั้งหมด 34 แห่ง ในขณะที่อีกสี่แห่งเป็นสายด่วนที่จอดที่ท่าเรือที่เลือกเท่านั้น เฉพาะสายธงสีส้ม โดยมีค่าธรรมเนียมคงที่ 15 บาท วิ่งทั้งวันและวันหยุดสุดสัปดาห์  สายอื่นๆจะหยุดบริการประมาณ 9 โมงเช้าและเริ่มอีกครั้งประมาณ 4 โมงเย็น เรือข้ามฟากข้ามแม่น้ำให้บริการที่ท่าเรือหลักๆ และจะส่งคุณไปยังอีกฝั่งหนึ่งด้วยค่าโดยสารที่ไม่แพง

ล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน ตลอดระยะเส้นทางการล่องเรือคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวสองฟากฝั่งแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นแสง สีตามตึก อาคาร โรงแรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ล้วนต่างเรียกร้องความสนใจให้เราหันไปเก็บภาพความประทับใจอยู่ไม่ขาด อีกทั้งปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการหลากหลายเจ้าให้คุณได้เลือกใช้บริการ ส่วนใหญ่จะนิยมจองแบบแพ็กเกจ ซึ่งรวมในส่วนของอาหารและกิจกรรมต่าง ๆ ตามแต่ละผู้ประกอบการนั้นจะกำหนด

จะเห็นได้เลยว่า ริมสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ กำลังเติบโตไปพร้อมกับไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมืองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาและน่าหลงใหลอย่างไม่เสื่อมคลาย วันหยุดไหนว่าง ๆ ลองออกมาทำกิจกรรมอย่างที่เราว่ากันดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรักกรุงเทพฯ ในอีกมุมมองที่ต่างออกไป