Amazing Thailand
Land of smiles

วัดญาณเสน (Wat Yan Sen)

วัดญาณเสน: วัดโบราณที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่กลับมีประวัติที่ลึกลับ ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป จุดเด่นของวัดคือเจดีย์ประธานย่อมุมไม้สิบสองลักษณะคล้ายเจดีย์ศรีสุริโยทัย วัดญาณเสนมีพระอุโบสถสร้างใหม่บนฐานเดิมตามแบบศิลปะอยุธยา ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณที่งามพร้อมไม่มีส่วนใดสึกหรอถึง 3 องค์

วัดญาณเสนเป็นวัดโบราณที่ทุกวันนี้มีพระจำพรรษาอยู่ เดิมชื่อวัดยานุเสน สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 1920 ซึ่งเป็นช่วงอยุธยาตอนต้น ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 1930 เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีใครทราบที่มาที่ไป ตลอดจนตำนานการสร้างวัด มีเพียงหลักฐานทางเอกสารเล่าความแค่ว่า ได้มีการสร้างร่องน้ำหรือทางชักน้ำใต้กำแพงวัดญาณเสน เพื่อชักน้ำจากแม่น้ำลพบุรีลงใต้กำแพง ผ่านใต้ถนนป่าตะกั่วไปลงคลองขุด จากคลอดขุดไปลงบึงพระราม ทำให้บึงพระรามมีน้ำที่สะอาดอยู่ตลอดเวลา ช่องทางน้ำนี้เรียกว่า ‘ช่องมหาเถรไม้แช่’ เมื่อกาลเวลาผ่านไปร่องน้ำใต้กำแพงถูกทับถมจนไม่อาจใช้เป็นทางน้ำได้อีก

กรมศิลปากรได้ประกาศให้วัดญาณเสนเป็นหนึ่งในโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2584 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2534

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด

เจดีย์ประธานของวัดญาณเสนเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ลักษณะคล้ายเจดีย์ศรีสุริโยทัย เดิมนักวิชาการสันนิษฐานว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นช่วงอยุธยาตอนกลาง ประมาณปี พ.ศ. 2100-2200
เจดีย์ประธานของวัดญาณเสนได้รับการบูรณะ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2487 พบพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทั้งสมัยลพบุรีและอยุธยา ส่วนครั้งที่ 2 คือในปี พ.ศ. 2544 พบเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องใช้โบราณ รวมถึงพบว่ามีการพอกปูนทับเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบเจดีย์ประธาน นั่นแสดงว่าเจดีย์มีมาก่อนช่วงกลางอยุธยาแต่ได้รับการบูรณะในช่วงกลางอยุธยาให้มีลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการค้นพบอีกด้วยว่าในการบูรณะในสมัยกลางอยุธยานั้น ผู้บูรณะได้สร้างเจดีย์รายเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย สำหรับเจดีย์รายรอบเจดีย์ประธานมีอยู่ทั้งหมด 5 องค์ ซึ่งพังทลายลงมา 4 องค์ ปัจจุบันเหลือเพียงองค์เดียวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์

อุโบสถ
พระอุโบสถของวัดญาณเสนที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาผุพังลงไปมาก ทางวัดได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่บนฐานเดิมในปี พ.ศ. 2487 ทำให้ฐานของพระอุโบสถยังคงมีโค้งสำเภาอันเป็นศิลปะอยุธยาหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้องค์พระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่ ยังสร้างเลียนแบบศิลปะอยุธยาหลายส่วน เช่น ช่องแสง (แทนที่จะเป็นหน้าต่าง) เหนือช่องแสงมีซุ้มพระ และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ แต่ไม่ครบทุกซุ้ม

พระพุทธรูปโบราณ
ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปโบราณ 3 องค์ประดิษฐานอยู่ ได้แก่ พระประธานองค์กลาง ซึ่งเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุด และพระพุทธรูปอีก 2 องค์ขนาบซ้ายขวา โดยพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นั้นล้วนเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรประนมมืออยู่ข้างพระพุทธรูป
พระพุทธรูปปางมารวิชัยสามองค์นับเป็นสัญลักษณ์ของวัดญาณเสนที่มักจะอยู่ด้านหลังพระเหรียญหรือวัตถุมงคลของทางวัดร่วมกับธรรมจักรเสมอ

ศาลพระพรหม
ศาลพระพรหมตั้งอยู่ในวัดส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ใช่โบราณสถาน แต่ก็มีผู้ศรัทธาเข้าไปกราบไหว้อยู่เป็นประจำ เชื่อกันว่าพระพรหมที่วัดญาณเสนนี้ศักดิสิทธิ์มาก ขออะไรสมปรารถนาทุกอย่าง ทำให้มีผู้นำพวงมาลัยดอกดาวเรืองและพวงมาลัย 7 สี 7 ศอกมาบูชาอยู่เป็นประจำ ไม่ขาดสาย

กราบรูปเหมือนหลวงปู่ชื้น พุทธสโร
หลวงปู่ชื้น พุทธสโร นับเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาวัดญาณเสน มาด้วยศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่ชื้น แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ทางวัดก็สร้างรูปเคารพของท่านเอาไว้ เป็นรูปหล่อสัมฤทธิ์นั่งขัดสมาธิลืมตา ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชา และระลึกถึงความเมตตาของท่าน

Moo 10
Ban Yang
Tambon Kong Thanu
Amphoe Mueang Lop Buri
Lop Buri
13240

Reviews (0)
No reviews yet.
0:00