ร้านอาหาร Tribeca

เน้นนำเสนอเมนู All Day Brunch ผ่านรสชาติที่แสนจะพิถีพิถัน ร้านนี้ตกแต่งแบบเรียบง่าย เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับบาร์เครื่องดื่มเป็นด่านแรก แบ่งโซนที่นั่งให้เลือกทั้งด้านในและชั้นลอยซึ่งเมื่อเปิดประตูออกไปก็ยังมีโซนเอาต์ดอร์ด้านนอกอีก นอกเหนือจากเพดานโล่งสูงโปร่ง ผนังอิฐสีขาวสะอ้าน และพื้นโมเสกที่เจ้าของร้านตั้งอกตั้งใจเลือกลวดลายมาเป็นพิเศษ อีกหนึ่งความโดดเด่นที่ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดีก็คือวอลล์เปเปอร์รูปแผนที่เมืองนิวยอร์กขนาดใหญ่ ถูกทาสีไฮไลต์เฉพาะส่วนที่เป็นเขตTribeca ซึ่งมีรูปร่างคล้ายทรงสามเหลี่ยม จึงไม่แปลกใจที่โลโก้ของร้านจะถูกออกแบบให้เป็นรูปสามเหลี่ยมตามไปด้วย “ความหมายของชื่อ Tribeca มาจากคำว่า Tri (Triangle) ที่แปลว่าสามเหลี่ยม ส่วน B คือ Below และ C คือ Canal Street” ริชี่เล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อร้านซึ่งเป็นเขตที่เขาและพี่สาวมักจะแวะไปหาของกินอร่อยๆ ชิมด้วยกัน ก่อนจะทยอยเสิร์ฟอาหารจานเด็ดมาให้เราได้ลิ้มลองดูบ้างเมนูบรันช์ที่น่าสนใจมีตั้งแต่เมนูเบาๆ แต่ถือเป็นจานซิกเนเจอร์อย่าง Pancake Benedict ที่แอบเคียงหมูสามชั้นชิ้นพอดีคำลงไปพร้อมกับไข่เยิ้มๆ ตามด้วย Cream of Tomato & 4 Cheese Sandwich แซนด์วิชอบชีสหอมหนึบหนับเสิร์ฟคู่กับซุปครีมมะเขือเทศ ความพิเศษอยู่ที่สูตรนี้ใส่ชีสชั้นดีลงไปถึง 4 ชนิด และอีกหนึ่งเมนูจัดหนักจัดเต็มที่อยากให้ลองคือ Biscuit Sandwich เป็นอาหารเซาธ์อเมริกันที่คนผิวสีชอบกินกันมากๆ ทำคล้ายสโคนอันใหญ่โปะทับไส้กรอกหมูและสแครมเบิล เอ้กส์ ราดด้วยมิกซ์เกรวี่ ส่วนใครที่ชื่นชอบขนมหวานคงถูกใจ เพราะเมนูขนมของที่นี่มีให้เลือกมากมาย แต่ที่อร่อยเด็ดจริงๆ ก็คือ Flourless Chocolate Cake เป็นช็อกโกแลตเค้กที่ไม่มีแป้งทำจากไข่ น้ำตาล และช็อกโกแลตเท่านั้น เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับครีมและเบอร์รี แต่ถ้าหากแวะมาช่วงเย็น ขอให้ลองค็อกเทลสูตรเฉพาะ Tribeca E13 ที่รสชาติกลมกล่อมเหมาะกับสาวๆ